- การรับ-ส่งข้อมูลโดย SPI จะมี Master เพียงตัวเดียวและจะทำหน้าที่ส่ง Clock ลงบนสาย SCK
- ข้อมูลที่ส่งไปยัง Slave จะส่งบนสาย MOSI ส่วนข้อมูลที่ Slave ส่งกลับมาให้ Master จะถูกส่งบนสาย MISO
*** หมายเหตุ การส่งข้อมูลจาก Slave กลับมาที่ Master ต้องใช้ Clock ด้วย โดย Master ต้องเป็นตัวส่ง ดังนั้น Master ต้องรู้ล่วงหน้าว่า Slave จะคืนค่ามากี่ไบต์เพื่อที่จะสร้าง Clock บนสาย SCK ได้เหมาะสม ***
- ข้อดีของ SPI
- เร็วกว่าการส่งแบบ Asynchronous serial
- สามารถมี Slave ได้หลายตัว
- ข้อเสียของ SPI
- ใช้สายสัญญาณเยอะ
- ต้องรู้จำนวนข้อมูลที่จะรับส่งล่วงหน้า
- Master จะต้องควบคุมการสื่อสารเองทั้งหมด
จะได้สมการ y = (sin(i)+1)*(2000)
โดยที่ i จะเพิ่มขึ้น 0.0001 ทั้งๆรอบของการส่งข้อมูล
- โดยแนวคิดที่ใช้คือ Sine Wave จะเกิดขึ้นได้คือการน้ำค่า Sine ของมุมตั้งแต่ 0-360 องศามาพลอตเป็นกราฟโดยการเปลี่ยนค่ามุมทีละน้อยๆเพื่อที่จะให้กราฟที่ออกมานั้นละเอียดที่สุด
- ทำการบวกค่า Sine แต่ละค่าด้วย 1 เพราะถ้าไม่บวกด้วย 1 จะทำให้กราฟมองเห็นเฉพาะค่าในฝั่งบวก
- และทำการใส่ตัวคูณเข้าไปเพื่อทำให้ค่าของ Sine แต่ละค่ามีแอมพลิจูดที่สูงขึ้นทำให้มองเห็นกราฟได้ง่ายขึ้น
- ปัญหาที่พบจากการทำ LAB
- มองไม่เห็นค่า Sine ในฝั่งลบ จึงทำการบวกค่า Sine ทุกค่าด้วย 1 เพื่อแก้ปัญหานี้
- มองไม่เห็นกราฟเนื่องจากไม่ใส่ ตัวคูณเพื่อเพิ่ม Amplitude ของกราฟ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น